ยูโร/เยน

คู่สกุลเงินยูโร/เยนหมายถึงอัตราแลกเปลี่ยนของยูโรต่อเยน ซึ่งก็คือ 1 ยูโรสามารถซื้อได้กี่เยน คู่สกุลเงินนี้เป็นวัตถุการซื้อขายที่สำคัญในตลาด Forex ทั่วโลกเนื่องจากเกี่ยวข้องกับสองประเทศที่มีเศรษฐกิจขนาดใหญ่: สหภาพยุโรปและญี่ปุ่น แนวโน้มของคู่สกุลเงิน EUR/JPY ได้รับผลกระทบจากหลายปัจจัย รวมถึงประสิทธิภาพทางเศรษฐกิจของทั้งสองประเทศ ความสัมพันธ์ทางการค้า สถานการณ์ทางการเมือง นโยบายการเงิน ความเสี่ยงที่ยอมรับได้ ฯลฯ

วิธีตรวจสอบอัตราแลกเปลี่ยน EUR/JPY

อัตราแลกเปลี่ยนสำหรับคู่สกุลเงิน EUR/JPY สามารถคำนวณได้หลายวิธี หนึ่งในวิธีทั่วไปคือการใช้อัตราข้าม อัตราแลกเปลี่ยนข้ามที่เรียกว่าหมายถึงความสัมพันธ์ด้านราคาระหว่างสองสกุลเงินที่แตกต่างกัน การแลกเปลี่ยนสกุลเงินระหว่างสองประเทศคำนวณโดยใช้อัตราแลกเปลี่ยนตามลำดับเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ตัวอย่างเช่น หากหนึ่งดอลลาร์สหรัฐสามารถแลกเปลี่ยนเป็น 0.9122 ยูโร และ 113.565 เยน ตามลำดับ อัตราแลกเปลี่ยนข้ามสกุลของยูโรต่อเยนจะเท่ากับ 124.50 (= 113.565/0.9122)

อัตราแลกเปลี่ยนของคู่สกุลเงินยูโร/เยนญี่ปุ่นสามารถทราบได้โดยการตรวจสอบอัตราแลกเปลี่ยนแบบเรียลไทม์หรืออัตราแลกเปลี่ยนที่โพสต์โดยธนาคารหรือเว็บไซต์หลักๆ ตัวอย่างเช่น ตามอัตราแลกเปลี่ยนที่ประกาศโดยธนาคารแห่งไต้หวันในช่วงเวลานอกทำการในวันที่ 17 มิถุนายน 2023 หนึ่งยูโรสามารถแลกเปลี่ยนเป็น NT$33.315 ถึง 33.915 ดอลลาร์ไต้หวันใหม่ และหนึ่งเยนสามารถแลกเปลี่ยนเป็น NT$0.2143 ถึง 0.2193 ดอลลาร์ไต้หวันใหม่ อัตราแลกเปลี่ยนที่โพสต์ของยูโรเทียบกับเยนคือ 152.86 ถึง 155.19 (= 33.315/0.2193 ถึง 33.915/0.2143)

จะลงทุนใน EUR/JPY ได้อย่างไร?

EUR/JPY เป็นคู่สกุลเงินที่มีสภาพคล่องและมีความผันผวนสูง ซึ่งสะท้อนถึงความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างยูโรโซนและญี่ปุ่น ผู้ลงทุนสามารถซื้อขายหรือลงทุนในคู่สกุลเงินนี้ได้หลายวิธี เช่น ตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ ตลาดฟิวเจอร์ส ตลาดออปชั่น หรือกองทุนซื้อขายแลกเปลี่ยน (ETF) ต่อไปนี้เป็นวิธีการและกลยุทธ์บางส่วนสำหรับการลงทุนในคู่สกุลเงิน EUR/JPY:

1. ตลาดฟอเร็กซ์

ตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศเป็นตลาดการเงินที่ใหญ่ที่สุดและคึกคักที่สุดในโลก โดยมีปริมาณธุรกรรมรายวันมากกว่า 6 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ในตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ นักลงทุนสามารถซื้อและขายคู่สกุลเงินที่แตกต่างกัน รวมถึง EUR/JPY ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์หรือนายหน้า ข้อดีของตลาดฟอเร็กซ์คือมีสภาพคล่องสูง เวลาแฝงต่ำ ต้นทุนต่ำ และเลเวอเรจสูง ข้อเสียของตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศคือมีความเสี่ยงสูง มีความผันผวน และไม่สม่ำเสมอ นักลงทุนจำเป็นต้องให้ความสนใจกับปัจจัยต่อไปนี้เมื่อทำการซื้อขาย EUR/JPY:

  • การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน: การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานหมายถึงการวิเคราะห์ปัจจัยทางเศรษฐกิจ การเมือง และสังคมที่ส่งผลต่อมูลค่าของสกุลเงิน เช่น อัตราดอกเบี้ย อัตราเงินเฟ้อ ดุลการค้า การเปลี่ยนแปลงนโยบาย เป็นต้น โดยทั่วไป หากผลการดำเนินงานทางเศรษฐกิจของยูโรโซนเป็น ดีกว่าของญี่ปุ่น หรือนโยบายการเงินของธนาคารกลางยุโรปผ่อนคลายกว่าของธนาคารแห่งประเทศญี่ปุ่น จากนั้น EUR/JPY จะเพิ่มขึ้น ในทางกลับกัน หากผลการดำเนินงานทางเศรษฐกิจของญี่ปุ่นดีกว่ายูโรโซน หรือของธนาคารแห่งประเทศญี่ปุ่น หากนโยบายการเงินเข้มงวดกว่าของ ECB EUR/JPY ก็จะลดลง

  • การวิเคราะห์ทางเทคนิค: การวิเคราะห์ทางเทคนิคหมายถึงการใช้แผนภูมิ ตัวชี้วัด และรูปแบบเพื่อคาดการณ์การเคลื่อนไหวของสกุลเงินและระบุโอกาสในการซื้อขาย เครื่องมือทางเทคนิคที่ใช้กันทั่วไป ได้แก่ เส้นแนวโน้ม ระดับแนวรับและแนวต้าน ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ โบลินเจอร์ แบนด์ ดัชนีความสัมพันธ์สัมพัทธ์ (RSI) ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ลู่เข้าความแตกต่าง (MACD) ฯลฯ นักลงทุนสามารถเลือกเครื่องมือทางเทคนิคและกลยุทธ์ที่เหมาะสมตามสไตล์ของพวกเขา และกรอบเวลา

  • การวิเคราะห์ทางจิตวิทยา: การวิเคราะห์ทางจิตวิทยาหมายถึงการพิจารณาผลกระทบของอารมณ์ ความเชื่อมั่น และความคาดหวังของผู้เข้าร่วมตลาดต่อราคาสกุลเงิน เครื่องมือทางจิตวิทยาที่ใช้กันทั่วไปบางอย่าง ได้แก่ เหตุการณ์ข่าว ข่าวลือในตลาด ดัชนีความเชื่อมั่นของนักลงทุน ฯลฯ นักลงทุนจำเป็นต้องให้ความสนใจกับอคติทางจิตวิทยา เช่น ความตื่นตระหนก ความโลภ ความมั่นใจมากเกินไป หรือผลกระทบต่อกลุ่มที่อาจเกิดขึ้นในตลาด และรักษาความสงบและมีเหตุผล

2. ตลาดซื้อขายล่วงหน้า

ตลาดฟิวเจอร์สเป็นตลาดการเงินตามสัญญาที่นักลงทุนสามารถซื้อหรือขายคู่สกุลเงิน ณ เวลาและราคาที่แน่นอนในอนาคตผ่านการแลกเปลี่ยนหรือสำนักหักบัญชี เช่น ฟิวเจอร์ส EUR/JPY ข้อดีของตลาดฟิวเจอร์สคือมีความโปร่งใส มีมาตรฐาน และระบบมาร์จิ้นสูง ข้อเสียของตลาดฟิวเจอร์สคือมีต้นทุนการทำธุรกรรมสูง ข้อจำกัดด้านเวลา และความลึกของตลาด นักลงทุนจำเป็นต้องให้ความสนใจกับปัจจัยต่อไปนี้เมื่อทำการซื้อขายฟิวเจอร์ส EUR/JPY:

  • ราคาฟิวเจอร์ส: ราคาฟิวเจอร์สหมายถึงราคาตลาดของคู่สกุลเงิน ณ เวลาหนึ่งและราคาในอนาคต โดยจะพิจารณาจากปัจจัยต่างๆ เช่น อุปสงค์และอุปทาน ความแตกต่างของอัตราดอกเบี้ย และการเปลี่ยนแปลงที่คาดหวัง โดยทั่วไป หากราคาฟิวเจอร์สของ EUR/JPY สูงกว่าราคาสปอต นั่นหมายความว่าตลาดคาดว่า EUR/JPY จะเพิ่มขึ้น ในทางกลับกัน หากราคาฟิวเจอร์สของ EUR/JPY ต่ำกว่าราคาสปอต นั่นหมายความว่าตลาดคาดว่า EUR/JPY จะลดลง

  • สิทธิของตัวเลือก: สิทธิของตัวเลือกหมายถึงสิทธิของนักลงทุนในการเลือกดำเนินการหรือละทิ้งสัญญาเมื่อทำการซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้า โดยทั่วไป หากนักลงทุนเชื่อว่า EUR/JPY จะเพิ่มขึ้น พวกเขาก็สามารถซื้อคอลออปชัน ซึ่งให้สิทธิ์แก่พวกเขาในการซื้อ EUR/JPY ในราคาที่ตกลงกันไว้ในอนาคต ในทางกลับกัน หากนักลงทุนเชื่อว่า EUR/JPY หากเงินเยนอ่อนค่าลง พวกเขาก็สามารถซื้อพุทออปชันได้ ซึ่งจะทำให้นักลงทุนมีสิทธิ์ขาย EUR/JPY ในราคาที่ตกลงกันไว้ในอนาคต

  • กลยุทธ์การซื้อขาย: กลยุทธ์การซื้อขายหมายความว่านักลงทุนสามารถใช้การผสมผสานและการดำเนินการที่แตกต่างกันเพื่อเพิ่มผลตอบแทนหรือลดความเสี่ยงเมื่อซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้า กลยุทธ์การซื้อขายที่ใช้กันทั่วไป ได้แก่ การซื้อขายทางเดียว การซื้อขายโดยอนุญาโตตุลาการ การซื้อขายป้องกันความเสี่ยง การรวมระยะสั้น-สั้น ฯลฯ นักลงทุนสามารถเลือกกลยุทธ์การซื้อขายที่เหมาะสมตามเป้าหมายและการยอมรับความเสี่ยง

3. ตลาดออปชั่น

ตลาดออปชั่นเป็นตลาดการเงินตามสัญญาที่นักลงทุนสามารถซื้อและขายสิทธิ์ในคู่สกุลเงิน ณ เวลาและราคาที่แน่นอนในอนาคตผ่านการแลกเปลี่ยนหรือสำนักหักบัญชี เช่น ออปชั่น EUR/JPY ข้อดีของตลาดออปชันคือมีความยืดหยุ่น ความหลากหลาย และนวัตกรรมสูง ข้อเสียของตลาดออปชันคือความซับซ้อน ความไม่แน่นอน และมูลค่าเวลาลดลงในระดับสูง นักลงทุนจำเป็นต้องให้ความสนใจกับปัจจัยต่อไปนี้เมื่อซื้อขายออปชั่น EUR/JPY:

  • มูลค่าออปชั่น: มูลค่าออปชั่นหมายถึงราคาตลาดของสิทธิในคู่สกุลเงิน ณ เวลาหนึ่งและราคาในอนาคต ประกอบด้วยสองส่วน: มูลค่าที่แท้จริงและมูลค่าเวลา มูลค่าที่แท้จริงหมายถึงผลกำไรที่นักลงทุนสามารถทำได้หากดำเนินการตามสัญญาทันที มูลค่าเวลาหมายถึงความเป็นไปได้และมูลค่าของตัวเลือกที่จะดำเนินการในอนาคต โดยทั่วไป หากมูลค่าออปชันของ EUR/JPY สูงกว่ามูลค่าที่แท้จริง นั่นหมายความว่าตลาดคาดว่า EUR/JPY จะมีความผันผวนอย่างมาก ในทางกลับกัน หากมูลค่าตัวเลือกของ EUR/JPY ต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริง นั่นหมายความว่าตลาดคาดว่า EUR/JPY จะมีความผันผวนอย่างมาก มีเสถียรภาพหรือผันผวนเล็กน้อย

  • ปัจจัยทางเลือก: ปัจจัยทางเลือกหมายถึงปัจจัยหลัก 5 ประการที่ส่งผลต่อมูลค่าของตัวเลือก ได้แก่ ราคาอ้างอิง ราคาใช้สิทธิ เวลาหมดอายุ ความผันผวน และอัตราดอกเบี้ยแบบไร้ความเสี่ยง โดยทั่วไป หากราคาของสินทรัพย์อ้างอิงของ EUR/JPY เพิ่มขึ้นหรือราคาใช้สิทธิลดลง มูลค่าของ call option จะเพิ่มขึ้น และมูลค่าของ put option จะลดลง ในทางกลับกัน หากราคาของสินทรัพย์อ้างอิงของ EUR/JPY ตกหรือราคาใช้สิทธิ์เพิ่มขึ้น มูลค่าของตัวเลือกการโทรจะลดลง และมูลค่าของตัวเลือกการวางจะเพิ่มขึ้น หาก EUR/JPY ทำให้การหมดอายุยาวนานขึ้นหรือความผันผวนเพิ่มขึ้น ออปชั่นทุกประเภทจะมีมูลค่าเพิ่มขึ้น ในทางกลับกัน หาก EUR/JPY ทำให้การหมดอายุสั้นลงหรือลดความผันผวน ออปชั่นทุกประเภทจะมีมูลค่าลดลง หากอัตราดอกเบี้ยไร้ความเสี่ยงเพิ่มขึ้น มูลค่าของคอลออปชันจะเพิ่มขึ้น และมูลค่าของพุตออปชันจะลดลง ในทางกลับกัน หากอัตราดอกเบี้ยไร้ความเสี่ยงลดลง มูลค่าของคอลออปชั่นจะลดลง และมูลค่าของพุทออปชันจะเพิ่มขึ้น

  • กลยุทธ์การซื้อขาย: กลยุทธ์การซื้อขายหมายถึงการผสมผสานและการดำเนินการต่างๆ ที่นักลงทุนสามารถใช้เพื่อเพิ่มผลตอบแทนหรือลดความเสี่ยงเมื่อซื้อขายสัญญาออปชั่น กลยุทธ์การซื้อขายทั่วไปบางอย่าง ได้แก่ การซื้อหรือขายออปชั่นเดียว การซื้อหรือขายออปชั่นหลายตัวด้วยราคาใช้สิทธิหรือเวลาหมดอายุที่แตกต่างกัน (เช่น สเปรดแนวตั้ง แนวนอน หรือแนวทแยง) การซื้อหรือขายพร้อมกัน สองตัวเลือกที่มีราคาใช้สิทธิและเวลาหมดอายุเท่ากัน แต่ทิศทางต่างกัน (เช่น long, double Bottom, collar หรือ Butterfly Spread) ซื้อหรือขายออปชั่นที่มีราคาใช้สิทธิและเวลาหมดอายุเท่ากันแต่มีข้อมูลอ้างอิงต่างกัน สองออปชั่น (เช่น straddle) เป็นต้น ผู้ลงทุนสามารถเลือกกลยุทธ์การซื้อขายที่เหมาะสมได้ ขึ้นอยู่กับเป้าหมายและการยอมรับความเสี่ยง

4. กองทุนซื้อขายแลกเปลี่ยน (ETF)

กองทุนซื้อขายแลกเปลี่ยนเป็นเครื่องมือการลงทุนที่ติดตามผลการดำเนินงานของดัชนี อุตสาหกรรม สินค้าโภคภัณฑ์ หรือสกุลเงิน และสามารถซื้อและขายในตลาดหลักทรัพย์ได้ เช่นเดียวกับหุ้น ผู้ลงทุนสามารถลงทุนทางอ้อมในคู่สกุลเงินนี้ได้โดยการซื้อและขาย ETF ที่ติดตามแนวโน้มของยูโร/เยน เช่น Euro/Yen Currency Trust (FXE) หรือ Japanese Yen/Euro Currency Trust (FXY) ข้อดีของ ETF คือความสะดวก ความโปร่งใส และความหลากหลายสูง ข้อเสียของ ETF คือมีค่าธรรมเนียมการจัดการสูง ข้อผิดพลาดในการติดตาม และความเสี่ยงด้านสภาพคล่อง นักลงทุนจำเป็นต้องให้ความสนใจกับปัจจัยต่อไปนี้เมื่อซื้อขาย EUR/JPY ETF:

  • ราคา ETF: ราคา ETF หมายถึงราคาตลาดของ ETF ที่ติดตามแนวโน้มของ EUR/JPY โดยจะพิจารณาจากปัจจัยต่างๆ เช่น อุปสงค์และอุปทาน มูลค่าสินทรัพย์สุทธิ (NAV) และเบี้ยประกันภัยหรือส่วนลด โดยทั่วไป หาก EUR/JPY เพิ่มขึ้น ETF ที่ติดตาม EUR/JPY ก็จะเพิ่มขึ้น ในทางกลับกัน หาก EUR/JPY ตก ETF ที่ติดตาม EUR/JPY ก็จะลดลง

  • ส่วนประกอบของ ETF: ส่วนประกอบของ ETF หมายถึงพอร์ตโฟลิโอของสินทรัพย์ที่ ETF ถือครองซึ่งติดตามแนวโน้มของเงินยูโร/เยน ประกอบด้วยเงินสด สัญญาซื้อขายล่วงหน้า สัญญาออปชัน หรือเครื่องมือทางการเงินอื่น ๆ ในสัดส่วนที่แตกต่างกัน นักลงทุนจำเป็นต้องเข้าใจองค์ประกอบและการถ่วงน้ำหนักของ ETF และผลกระทบต่อผลการดำเนินงานและความเสี่ยงของ ETF อย่างไร

  • กลยุทธ์ ETF: กลยุทธ์ ETF หมายถึงวิธีการต่างๆ ที่นักลงทุนสามารถใช้เพื่อเพิ่มผลตอบแทนหรือลดความเสี่ยงเมื่อซื้อขาย ETF กลยุทธ์ ETF ที่ใช้กันทั่วไป ได้แก่ การถือครองระยะยาว การซื้อขายระยะสั้น การดำเนินการระยะสั้นระยะยาว การดำเนินการเก็งกำไร การดำเนินการป้องกันความเสี่ยง ฯลฯ นักลงทุนสามารถเลือกกลยุทธ์ ETF ที่เหมาะสมโดยพิจารณาจากเป้าหมายและการยอมรับความเสี่ยง

บทสรุป

EUR/JPY เป็นคู่สกุลเงินที่มีสภาพคล่องสูงและมีความผันผวนซึ่งสะท้อนถึงความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างยูโรโซนและญี่ปุ่น ผู้ลงทุนสามารถซื้อขายหรือลงทุนในคู่สกุลเงินนี้ได้หลายวิธี เช่น ตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ ตลาดซื้อขายล่วงหน้า ตลาดออปชั่น หรือกองทุนซื้อขายแลกเปลี่ยน แต่ละวิธีมีข้อดี ข้อเสีย และความเสี่ยงต่างกันไป และนักลงทุนจำเป็นต้องเลือกวิธีการและกลยุทธ์ที่เหมาะสมตามความรู้ ประสบการณ์ และความชอบของตนเอง นักลงทุนยังต้องให้ความสนใจกับปัจจัยต่างๆ ที่ส่งผลต่อแนวโน้มของ EUR/JPY เช่น ปัจจัยพื้นฐาน ด้านเทคนิค และจิตวิทยา และยังคงระมัดระวังและเรียนรู้

ยังต้องการความช่วยเหลือใช่ไหม แชทกับเรา

ทีมบริการลูกค้าให้การสนับสนุนอย่างมืออาชีพถึง 11 ภาษาตลอดเวลา การสื่อสารที่ไร้อุปสรรค และการแก้ปัญหาของคุณอย่างทันท่วงทีและมีประสิทธิภาพ

7×24 H