EUR/USD ยังคงทรงตัวที่บริเวณ 1.1350 เนื่องจากมีสัญญาณความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ และจีนคลี่คลายลง
EUR/USD เผชิญความท้าทายเนื่องจากดอลลาร์แข็งค่าขึ้น โดยได้รับการสนับสนุนจากสัญญาณของความสัมพันธ์ที่ผ่อนคลายระหว่างสหรัฐฯ และจีน จีนประกาศว่าจะยกเว้นการนำเข้าสินค้าบางรายการของสหรัฐฯ จากภาษีนำเข้า 125% ซึ่งถือเป็นความหวังเล็กๆ น้อยๆ สำหรับการปรับปรุงความสัมพันธ์ทางการค้า
EUR/USD อ่อนค่าลงเป็นวันที่สองติดต่อกัน โดยซื้อขายที่ระดับ 1.1360 ในการซื้อขายในเอเชียเมื่อวันจันทร์ EUR/USD ตกอยู่ภายใต้แรงกดดันจากเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น และสัญญาณความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ และจีนที่คลี่คลายลงก็ส่งผลต่อความเชื่อมั่นของตลาดเช่นกัน
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา จีนได้ยกเว้นภาษีนำเข้าสินค้าบางรายการจากสหรัฐฯ 125% ตามแหล่งข่าวทางธุรกิจ การเคลื่อนไหวดังกล่าวทำให้เกิดความหวังว่าสงครามการค้าระหว่างสองประเทศเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดของโลกที่ดำเนินมาอย่างยาวนานอาจจะสิ้นสุดลง
บรู๊ค โรลลินส์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรของสหรัฐฯ กล่าวเมื่อวันอาทิตย์ว่า รัฐบาลของทรัมป์กำลังหารือเรื่องภาษีศุลกากรกับจีนเป็นประจำทุกวัน สำนักข่าวรอยเตอร์รายงาน รอลลิงส์เน้นย้ำว่าการเจรจายังคงดำเนินต่อไป และข้อตกลงการค้ากับประเทศอื่นๆ ก็ "ใกล้จะเสร็จสิ้นแล้ว"
แม้จะมีความคิดเห็นดังกล่าว แต่สำนักข่าวรอยเตอร์อ้างคำพูดของโฆษกสถานทูตจีนเมื่อวันศุกร์ที่ปฏิเสธการเจรจากับสหรัฐฯ ในปัจจุบันอย่างหนักแน่น โดยระบุว่าไม่มีการปรึกษาหารือหรือพูดคุยเรื่องภาษีศุลกากรระหว่างจีนและสหรัฐฯ โฆษกเรียกร้องให้สหรัฐฯ “หยุดสร้างความวุ่นวาย” นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ในกรุงปักกิ่งยังย้ำเมื่อวันพฤหัสบดีว่าขณะนี้ยังไม่มี “การเจรจาเศรษฐกิจและการค้า” และเน้นย้ำว่าสหรัฐฯ ต้อง “ยกเลิกมาตรการภาษีศุลกากรฝ่ายเดียวทั้งหมด” เพื่อปูทางไปสู่การเจรจา
ในขณะเดียวกัน การคาดการณ์แนวโน้มขาลงเกี่ยวกับธนาคารกลางยุโรป (ECB) กำลังทวีความรุนแรงขึ้น เนื่องจากมีความกังวลเพิ่มขึ้นว่า อัตราเงินเฟ้อของโซนยูโรอาจลดลงต่ำกว่าเป้าหมาย 2% ของ ECB เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา Olli Rehn ผู้กำหนดนโยบายของ ECB ซึ่งเป็นผู้ว่าการธนาคารฟินแลนด์ ได้เตือนถึงความเสี่ยงด้านลบต่อเงินเฟ้อ โดยระบุว่า "ภายใต้สถานการณ์ปัจจุบัน การคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อในระยะกลางมีแนวโน้มที่จะลดลงต่ำกว่าเป้าหมาย 2%"
โบนัสเงินคืนเพื่อช่วยให้นักลงทุนเติบโตในโลกของการเทรด!