โดรนโจมตีสถานีสูบน้ำรัสเซียส่งผลให้ราคาน้ำมันลดลง
การโจมตีของโดรนที่สถานีสูบน้ำของรัสเซียส่งผลให้ราคาน้ำมันลดลงเล็กน้อย

ราคาน้ำมันดิบลดลงเล็กน้อยในการซื้อขายในเอเชียในวันอังคาร หลังจากโดรนของยูเครนโจมตีสถานีสูบน้ำมันดิบของรัสเซีย ส่งผลให้อุปทานจากคาซัคสถานหยุดชะงัก ขณะเดียวกัน มีรายงานว่ากลุ่ม OPEC+ กำลังพิจารณาเลื่อนแผนการฟื้นฟูการผลิต ซึ่งยิ่งเพิ่มความกังวลด้านอุปทานอีกด้วย
ความรู้สึกระมัดระวังยังมีผลมาจากความกลัวที่เกิดขึ้นใหม่เกี่ยวกับอุปทานส่วนเกินท่ามกลางแนวโน้มของข้อตกลงสันติภาพระหว่างรัสเซียและยูเครน
เมื่อเวลา 09:38 น. ET (02:38 GMT) ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ฟิวเจอร์ส ลดลง 0.2% อยู่ที่ 75.10 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่ ราคาน้ำมันดิบ WTI ฟิวเจอร์ส ซึ่งจะหมดอายุในเดือนมีนาคมเพิ่มขึ้น 0.7% อยู่ที่ 71.17 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ไม่ได้ปิดทำการในเวลาปกติในวันจันทร์ เนื่องจากตลาดสหรัฐฯ ถือเป็นวันประธานาธิบดี ซึ่งเป็นวันหยุดของรัฐบาลกลางที่โดยทั่วไปจะส่งผลกระทบต่อกำหนดการซื้อขาย
ตลาดยังคงระมัดระวังก่อนที่จะมีการจัดเก็บภาษีใหม่ที่อาจเกิดขึ้นจากรัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ
แนวโน้มความตึงเครียดด้านการค้าที่ทวีความรุนแรงขึ้นทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของการเติบโตทางเศรษฐกิจโลก ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อความต้องการน้ำมัน นักวิเคราะห์เตือนว่าภาษีศุลกากรเพิ่มเติมอาจส่งผลกระทบต่อการค้าและส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทางอุตสาหกรรม โดยเฉพาะในภาคส่วนที่ใช้พลังงานเข้มข้น
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นในวันอังคารเช่นกัน สะท้อนถึงความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยท่ามกลางความไม่แน่นอนทางการค้า โดยทั่วไปแล้ว ดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นจะกดดันราคาน้ำมัน เนื่องจากทำให้ราคาน้ำมันดิบแพงขึ้นสำหรับผู้ถือสกุลเงินอื่น
ตลาดผันผวนเนื่องจากคาดการณ์การประชุมที่มีเดิมพันสูงระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ และประธานาธิบดีรัสเซียในอีกไม่กี่วันข้างหน้า
นักวิเคราะห์ชี้ให้เห็นว่าข้อตกลงสันติภาพระหว่างรัสเซียและยูเครน รวมถึงการผ่อนคลายมาตรการคว่ำบาตรด้านพลังงานของรัสเซีย อาจส่งผลกระทบต่อรูปแบบการจัดหาน้ำมันดิบทั่วโลก อย่างไรก็ตาม สัญญาณอุปสงค์ที่แข็งแกร่งในระยะใกล้ช่วยหนุนราคาน้ำมันดิบ
โบนัสเงินคืนเพื่อช่วยให้นักลงทุนเติบโตในโลกของการเทรด!