
เงินเย็น… ทุนสำคัญของการลงทุน VI
เงินเย็น จุดเริ่มต้นสำคัญของการสร้างความมั่งคั่งจากการลงทุนระยะยาวแบบ VI
การลงทุนมีความเสี่ยง แต่การไม่ลงทุนแล้วปล่อยให้เงินนอนนิ่งเฉย ๆ ในบัญชีธนาคารกลับเสี่ยงยิ่งกว่า คุณได้ทราบมาบ้างแล้วว่า การลงทุนมีความเสี่ยง แต่ถึงอย่างนั้น ความเสี่ยงจากการลงทุนก็สามารถจำกัดลงได้ด้วยความรู้ และการบริหารจัดการเงินอย่างมีระบบและมีวินัย ซึ่งหนึ่งในเทคนิคการบริหารเงินเพื่อการลงทุนคือ การสร้างเงินเย็น และนำเงินเย็นนั้นไปลงทุนให้งอกเงย ตามระดับความเสี่ยงที่คุณสามารถยอมรับได้
ในบทความนี้ จะพาทุกท่านไปทำความรู้จักกันให้มากขึ้นเกี่ยวกับ ‘เงินเย็น’ ที่จะเป็นทุนรอนสำคัญของการลงทุนในหุ้นระยะยาว หรือการลงทุนสินทรัพย์ใด ๆ ที่จะคาดหวังผลตอบแทนระยะยาวมากกว่า 7 ปีขึ้นไป
เงินเย็น คืออะไร ใช้ทำอะไรได้บ้าง
เงินเย็น คือคำเรียกของเงินจำนวนหนึ่งที่คุณจะใช้มัน หรือไม่ใช้มันก็ได้ ไม่ส่งผลกระทบต่อการดำรงชีวิตประจำวัน เรียกว่า ต่อให้ไม่ได้ใช้ ก็ยังมีชีวิตที่เป็นปกติสุขได้
บางคนเรียกเงินเย็นว่า “สภาพคล่องส่วนเกิน”
ความจริงแล้ว เราทุกคนต่างก็มีเงินเย็นในแบบของตัวเองด้วยกันทั้งนั้น เพียงแต่เราอาจจจะยังไม่ทันได้สังเกต ให้ความสำคัญกับมันสักเท่าไร เคยใช่ไหมที่เดือนนี้มีเงินเหลือจากการใช้จ่าย ไม่ว่าจะเท่าไร เงินจำนวนนั้นคือเงินเย็นของคุณ (แม้จะเป็นก้อนเล็ก ๆ ก็ตาม)
ถึงอย่างนั้น เงินเย็นที่เป็นส่วนเหลือจากการใช้จ่ายนั้นไม่ยั่งยืน ไม่ก่อให้เกิดมูลค่าใด ๆ นอกเสียจากการหยอดใส่กระปุกหรือฝากเข้าบัญชีธนาคาร ดังนั้น ในฐานะผู้ที่ใช้เงินเป็น เราจะมาเรียนรู้วิธีสร้างเงินเย็นให้งอกเงย แล้วนำไปลงทุนในสินทรัพย์ที่หลากหลาย ให้เงินทำงานเพื่อสร้างรายได้แบบ Passive Income เพื่ออนาคตของเราต่อไปกัน
สารพันวิธีสร้างเงินเย็น
ก่อนจะมีเงินเย็นเพื่อการลงทุนได้นั้น ต้องเริ่มต้นจากการปรับรูปแบบการใช้จ่ายก่อน
ถ้าคุณเป็นเจ้าของกิจการ ต้องแยกให้ออกก่อนว่า คุณจะให้เงินเดือนตัวเองกินใช้เดือนละเท่าไร โดยไม่เอาเงินที่จะใช้ส่วนตัวไปปะปนกับเงินทุนหมุนเวียนของกิจการ ไม่เช่นนั้นแล้ว ทั้งธุรกิจและชีวิตส่วนตัวจะพังทลายด้วยความไม่เป็นระเบียบของการบริหารจัดการเงินทองนั่นเอง
ถ้าคุณเป็นคนทำงานมีรายได้ในรูปแบบเงินเดือนตายตัว ก็ข้ามขั้นตอนไปที่การวางแผนค่าใช้จ่ายได้เลย
วิธีวางแผนค่าใช้จ่ายเพื่อสร้างเงินเย็นก้อนแรก
1. ลิสต์รายการค่าใช้จ่ายประจำ
ค่าใช้จ่ายประจำ คือบรรดารายจ่ายต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการดำรงชีวิต ไม่ว่าจะเป็น ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าเดินทาง ค่าบ้าน ค่ารถ ฯลฯ บางรายการอาจกำหนดตายตัวไม่ได้ ก็ขอให้กำหนดเป็น ‘งบประมาณ’
เมื่อมีงบประมาณ คุณจะทราบได้ว่าเงินไปทางไหนบ้าง และไม่ใช้จ่ายเกินตัวจนเกินงบ แล้วไปกระทบกับค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่เราจะกล่าวถึงต่อไป
2. กำหนดเงินออมประจำเดือน
บางท่านให้ข้อแนะนำว่า ควรแบ่งเงินมาออมอย่างน้อย 10% ของรายได้ประจำ เช่นคุณมีเงินเดือนเดือนละ 10,000 บาท แบ่งออมแน่ ๆ เลย 10% ก็คือ 1,000 บาท
อย่างไรก็ตาม หากคุณสามารถจำกัดค่าใช้จ่ายลงได้ ก็สามารถนำเงินส่วนนั้นมาเติมในเงิน 1,000 บาทเพื่อไปออม ก็นับว่าเป็นวิธีที่ไม่เลว
3. กำหนดค่าใช้จ่ายรายเดือน
สังเกตหรือไม่ว่า เราให้ความสำคัญกับการจัดสรรเงินสำหรับการออมก่อนการใช้ ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะว่า โดยธรรมชาติของคนเรา เมื่อมีเงินมาก ก็จะใช้มากตามไปด้วย เห็นของลดราคาก็อยากได้ อยากซื้อไปเสียทุกอย่าง พอมารู้ตัวอีกที เหลือเงินติดกระเป๋าสิ้นเดือนไม่เท่าไร สุดท้ายก็ยังไม่ได้เริ่มต้นออมเสียที
ค่าใช้จ่ายรายเดือนนี้ ไม่รวมกับค่าใช้จ่ายประจำที่กล่าวไปข้างต้น เงินจำนวนนี้ อาจใช้เพื่อความบันเทิง ช้อปปิ้ง หรือเป็นเงินใช้จ่ายประจำวัน ถ้าจะให้ดีขึ้นมาอีกหน่อย คุณสามารถจัดการรายจ่ายรายวันได้หรือเปล่า ถ้าได้ ก็จะช่วยให้คุณติดตามการใช้เงินของตัวเองได้ดีขึ้น และรู้ว่าจะเพิ่มเงินไปออมและต่อยอดไปยังการลงทุนด้วยได้อย่างไรบ้าง
4. วางแผนการลงทุน
เพราะการลงทุนมีความเสี่ยง การวางแผนการลงทุนจะช่วยให้คุณบริหารความเสี่ยงเพื่อจำกัดขนาดของความเสี่ยงลงให้ได้น้อยที่สุด
ในขั้นแรก คุณควรทดลองทำแบบประเมินความเสี่ยงของการลงทุนดูก่อน ว่าด้วยสภาพการเงิน และทัศนคติ อายุเช่นนี้ คุณจะแบกรับความเสี่ยงของการลงทุนได้ในระดับใด ผลที่ประเมินที่ได้จะออกมาเป็นช่วงคะแนน และช่วงคะแนนนั้นจะบอกระดับความเสี่ยงที่รับได้ เทียบเท่ากับระดับความเสี่ยงของสินทรัพย์การลงทุนชนิดต่าง ๆ ในตลาด
จากนั้น มาตรวจสอบดูว่า ตอนนี้คุณมีเงินในบัญชีธนาคารเท่าไร ลองจัดสรรเงินจำนวนเล็ก ๆ ออกมาเพื่อลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ ๆ หรือในะดับความเสี่ยงที่รับได้ เพื่อให้คุณได้สามารถเรียนรู้กลไกการเปลี่ยนแปลงของราคาหุ้น หรือราคาสินทรัพย์การลงทุน
ในระหว่างนี้ คุณอาจเพิ่มเงินออมให้มากขึ้น หรือสามารถจัดสรรเงินอีกส่วนหนึ่งที่เป็นสภาพคล่องส่วนเกินมาเพื่อการลงทุนโดยเฉพาะก็ได้
มีเงินเย็น ลงทุนอะไรดี
สำหรับคำตอบของคำถามที่ว่า ควรลงทุนอะไรดีนั้น ไม่มีคำตอบที่ตายตัวแบบ One-size fit all ทั้งนี้เป็นเพราะเราแต่ละคนมีเงื่อนไขของชีวิตที่ไม่เหมือนกัน รับความเสี่ยงของการลงทุนได้ต่างกัน การลงทุนที่ดีของคนหนึ่ง อาจเป็นเรื่องที่เสี่ยงเกินไปสำหรับคนอีกคน ในทางกลับกัน การลงทุนที่ดีสำหรับคนนี้ อาจเป็นเพียงเรื่องพื้นฐานของนักลงทุนอีกคนก็ได้
สิ่งสำคัญในการเลือกลงทุนคือ ใช้เงินเย็นในการลงทุนภายใต้ความเสี่ยงที่คุณรับได้ ไม่ส่งผลกระทบต่อคุณภาพการดำรงชีวิต ห้ามไปกู้หนี้ยืมสิน หรือค้ำประกันสินทรัพย์ใด ๆ มาเพื่อการลงทุนดดยเด็ดขาด เพราะเราไม่สามารรถประมารการ์หรืแกะเกณฑ์ผลตอบแทนได้ว่า ถ้าถึงวันที่ต้องชำหระหนี้คืนหรือไถ่ถอนจำนอง คุณจะมีเงินสดเพียงพอไปดำเนินการ
ดังนั้น นี่จึงเป็นเหตุผลที่ว่า ทำไมคุณควรใช้เงินเย็นในการลงทุนเท่านั้น
มีเงิน 1,000 บาทลงทุนอะไรดี
มีเงินเย็น 1,00 บาท ก็อย่าดูถูกด้อยค่าว่าเงินน้อย จะไปลงทุนอะไรก้คงไม่ได้กำไร
โปรดอย่างคิดเช่นนั้น อย่าลืมว่า เงินก้อนใหญ่ ๆ หรือผลกำไรมหาศาล ก็ย่อมเกิดจากการเก็บเล็กผสมน้อย แล้วยิ่งตอนนี้คุณมีไมด์เซ็ตที่ดีต่อการใช้เงินแล้วว่า ไม่ควรวางเงินไว้เฉย ๆ แต่ควรปล่อยให้เงินได้ออกไปทำงานเพื่อสร้างผลตอบแทน
ดังนั้น เรามาดูไอเดียดี ๆ กันสักเล็กน้อยว่าเงินเย็น 1,000 บาทต่อเดือน จะนำไปทำอะไรได้บ้าง
1. ซื้อกองทุนรวมดัชนี
ข้อดีของการนำเงินเย็นไปลงทุนในกองทุนรวมดัชนีคือ คุณจะซื้อหุ้นได้ทั้งตลาด ไม่สนใจว่าเวลาไหนอุตสาหกรรมใดรุ่งเรืองหรือตกต่ำ ดัชนีหุ้นจะเป็นตัวชี้วัดสุขภาวะโดยรวมของตลาดหุ้นหนึ่ง ๆ เช่น ดัชนีดาวน์โจนส์ ดัชนี SETHD ดัชนี MSCI เป็นต้น ที่คุณมีหลากหลายช่องทางในการลงทุนด้วยเงินเย็นทีละน้อย ๆ เพื่อมุ่งหวังผลตอบแทนที่ดีกว่าในระยะยาว
2. ลงทุนในกองทุน SSF, RMF หรือ กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
หากคุณมีหน้าที่ต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา การแบ่งเงินเย็นบางจำนวนไป DCA กองทุนรวมเหล่านี้ จะช่วยให้คุณได้ทั้งการลงทุนและประหยัดภาษี
3. ทยอยสะสมคริปโต
คริปโตเคอร์เรนซี่หรือสกุลเงินดิจิทัลยังคงร้อนแรงแม้ในปี 2566 นี้ สำหรับมือใหม่ แนะนำให้ทำการศึกษาถึงความเสี่ยงและอรรถประโยชน์การใช้งานของบรรดาเหรียญต่าง ๆ ที่มีอยู่ในตลาดนี้ก่อน และลองเทรดหรือซื้อลงทุนเหรียญคริปโตที่มีสภาพคล่องสูง ๆ อย่าง Bitcoin, Ethereum, Cadano มากกว่าเหรีญที่มีความจำเพาะเจาะจง เพราะถ้าเกิดคุณเปลี่ยนใจขึ้นมา ก็สามารถเทรดได้ง่าย ๆ ด้วยความที่มีสภาพคล่องสูง
4. ซื้อหุ้นคุณค่า
หุ้นคุณค่านั้นเหมาะกับเงินเย็นมาก ๆ เพราะการถือหุ้นคุณค่าตามแบบการลงทุนระยะยาวนั้น ต้องอาศัยเวลา และไม่หวั่นไหวไปกับความผันผวนเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่จะเกิดขึ้นช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง
หากคุณไม่ได้ลงทุนหุ้นคุณค่าด้วยเงินเย็น เกิดมีความจำเป็นต้องใช้ขึ้นมา แล้วอยู่ในช่วงขาลงของหุ้นตัวนั้นพอดี ก็ทำให้ต้องจำใจขายขายทุนเพื่อให้ได้เงินสดมาหมุนเวียน
จะเห็นได้ว่าเงินเย็นที่เกิดจากการรู้จักใช้ รู้จักออม จะช่วยให้คุณมุ่งไปสู่เป้าหมายทางการลงทุนในสินทรัพย์ที่ระดับความเสี่ยงต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพแบบค่อยเป็นค่อยไป
ข้อสำคัญของการสร้างและใช้เงินเย็น หรือสภาพคล่องส่วนเกินนี้คือ คุณต้องมีวินัยในตัวเอง ไม่หวั่นไหวไปกับของลดราคาหรือการใช้จ่ายกับสิ่งที่ไม่จำเป็นจนเป็นนิสัย
บทความที่กำลังมาแรง
- 5 เรื่องต้องรู้ หุ้นเทค AI มูฟไปกับเทรนด์โลก
ลงทุนต้องตามเทรนด์ หุ้น AI ทํางานหนักให้กับหลากอุตสาหกรรมรอบโลก มาเรียนรู้ 5 บทบาทของ AI ในธุรกิจต่าง ๆ และคว้าโอกาสของการเติบโตตามเทรนด์โลกไปกับหุ้น AI ต่างประเทศ
2024-10-29
TOPONE Markets Analyst - ส่อง 5 หุ้นดังสปอนเซอร์โอลิมปิก ปารีส 2024
เกาะกระแสปารีสโอลิมปิก 2024 เฟ้นหาหุ้นน่าลงทุนระยะสั้นจากสปอนเซอร์หลักโอลิมปิกที่น่าจับตา สร้างพอร์ตการเล่นหุ้นระยะสั้นด้วยการเทรด CFD
2024-08-07
TOPONE Markets Analyst - 25 คนที่รวยที่สุดในโลกในปี 2023
เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว คนที่รวยที่สุด 25 คนนี้ยากจนกว่าปีที่แล้วถึง 200 พันล้านดอลลาร์ แต่ก็ยังมีมูลค่า 2.1 ล้านล้านดอลลาร์
2024-01-30
TOPONE Markets Analyst - รู้เวลาเปิด - ปิดตลาดหุ้นไทย วางแผนการเทรดอย่างโปร
รอบรู้เวลาเปิดและปิดทำการของตลาดหุ้นไทย เพื่อให้วางแผนการเทรดได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเหนือชั้นกว่ากับการเทรด CFD ที่ทำได้ทุกที่ทุกเวลา ไม่ขึ้นกับเวลาเปิด-ปิดของตลาดหุ้น
2023-11-15
TOPONE Markets Analyst
ฟรี!

โบนัสเงินคืนเพื่อช่วยให้นักลงทุนเติบโตในโลกของการเทรด!